วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

6 วิธีที่ผู้ชายบอกรักโดยที่ไม่พูดคำว่า "รัก"


6 วิธีที่ผู้ชายบอกรักโดยที่ไม่พูดคำว่า "รัก"

"ความรักที่ไม่ต้องใช้คำพูด" แทนคำว่ารักที่ผู้ชายใช้แทนคำพูด

1.คุณจับได้ว่าเขาจ้องมองตาคุณอยู่ปกติผู้ชายมักจะจ้องมองสิ่งที่เขาปรารถนาอยู่เสมอ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมเราจึงเห็นผู้ชายแอบมองหน้าอกของผู้หญิง หรือวิจารณ์หน้าอกของผู้หญิงอยู่บ่อยๆ วิธีการมองที่บอกว่า "ผมรักคุณ" นั้นมีอยู่สองแบบ แบบแรกคือการแอบมองคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว (เพราะฉะนั้นแอบจับเขาให้ได้หล่ะ) แบบที่สองคือ จ้องมองคุณอย่างแน่วแน่ในระหว่างที่พูดคุยกัน

2. เขาตุนของโปรดของคุณไว้ในตู้เย็นหรือในครัวที่บ้านเขานั่นแสดงให้เห็นว่าเขานึกถึงแต่ความสุขของคุณอยู่เสมอก็ความสุขอย่างนึงของผู้หญิงก็คือการกินยังไงหล่ะ ฉะนั้นลองสังเกตุเวลาที่เค้าไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เกตแล้วลองดูรายการที่เค้าเลือกหยิบ ถ้ามันมีแต่มัชเมโล คิตตี้แคท หรือโยเกริตรสชาติโปรดของคุณ มากกว่าของส่วนตัวของเขาหล่ะ ก็นั่นแหละสิ่งบอกความในใจหล่ะค่ะ และยิ่งไปกว่านั้นนะคะการ์ตุนของหมายถึงการประกาศให้คนรอบข้าง หรือสาธารณชนรู้ถึงความสำคัญของคุณ ปกติแล้วผู้ชายที่ยังไม่ยอมลงหลักปักฐานกับใครจะไม่ค่อยซื้อของพวกเนี้ยไปเก็บไว้ที่บ้านหรอกค่ะ ทำไมเหรอคะก็กลัวสาวอื่นจะมาเห็นยังไงหล่ะ

3. เขาเริ่มพูดถึงอนาคตถ้าวันดีคืนดีเขาพูดกับคุณถึงเรื่องอีก 3 ปีข้างหน้า ชีวิตเค้าจะเป็นอย่างไร หรือเค้าอยากมีบ้านแบบไหน มันเป็นการบอกความนัยว่าเขาอยากร่วมชีวิตกับคุณ อยากให้คุณวาดฝันที่จะได้ไปอยู่กับเขาหรือมีอนาคตที่เหมือนกับเขา และยิ่งถ้าเขาถามความเห็นของคุณด้วยหล่ะก็ นั่นหมายถึงสัมพันธภาพของคุณไปได้อีกยาวแน่ๆ

4. เขาใส่เสื้อผ้าที่คุณซื้อให้ตลอดเวลาทุกครั้งที่ผู้ชายใส่เสื้อผ้าที่เห็นได้ชัดว่าเค้าไม่ได้เป็นคนเลือกเองนั่นหมายถึงเขากำลังแสดงให้เห็นว่าเขาปล่อยให้คุณเป็นผู้ควบคุมและเปลี่ยนแปลงโฉมให้เขา มันถือว่าเป็นการแสดงออกที่กล้าหาญอย่างมากเชียวนะคะกับการที่จะถูกเพื่อนๆ โสดของเขาล้อเลียนเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตัวที่เปลี่ยนไป

5. เขาชอบยืนเบียดไหล่กับคุณผู้ชายถ้าไม่อยากให้สัมพันธภาพยืนยาวกับผู้หญิงมากนัก เค้ามักจะไม่ค่อยเดินคลอเคลีย แต่กลับเดินนำหน้า หรือเดินตามหลังคุณห่างๆ แต่ถ้าเค้าตกหลุมรักคุณจริงๆ แล้วหล่ะก็ การเดินเคียงบ่า เคียงไหล่กับคุณแสดงให้เห็นถึงความผูดมัดของเขาด้วยการรักษาระดับสายตา ให้อยู่แต่ในที่ๆคุณจะเห็นได้ชัด รวมไปถึงยืนตัวติดกันด้วย

6. ยอมให้คุณรับโทรศัพท์ของเขาอันนี้ถือเป็นปราการด่านสำคัญ ที่ทำให้คุณเจาะเข้าไปถึงเรื่องส่วนตัวสุดๆ ของเหล่าชายค่ะ ถ้าเขายอมให้คุณรับโทรศัพท์ของเขา นั่นแสดงว่าเขาไว้ใจคุณพร้อมที่จะเปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างกับคุณ ยอมให้คุณรุกล้ำเข้าไปสู่อาณาจักรส่วนตัวเพราะโทรศัพท์ถือว่าเป็นสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ในยามที่ผู้ชายมีแฟน การที่เค้ายอมยกสิทธิส่วนตัวอย่างเดียวที่เหลืออยู่นั้นให้คุณ แสดงว่าเค้ารักคุณแล้วจริงๆ

แต่วิธีทั้งหมดนี้ถ้าคุณผู้ชายทำให้กับคนไม่มีจิตใจก็ไม่เกิดประโยชน์น่ะ ไม่ต่างอะไรกับตำน้ำพริกละลายทะเล 

วันหวาน


วันหวาน

คืนฝัน วันหวาน ณ กาลครั้งหนึ่ง

คนเราล้วนมีชีวิตทั้งในโลกแห่งความฝัน และโลกอันเป็นจริง บางคนอาจใช้โลกแห่งความฝัน เป็นที่ซ่อนกายเพื่อหลบเลียบาดแผล จากโลกแห่งความเป็นจริง แต่บางคน ก็อาจมีโลกแห่งความฝันไว้ สำหรับเก็บงำสิ่งดีๆ และความรู้สึกงดงามต่างๆ มิให้สูญหายไปในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เราทุกคนต่างก็มีความสุข เมื่อได้อยู่กับความหลัง และความหวังอันงดงาม ในโลกซึ่งมีเพียงเรา กับคนที่เรารักใคร่ชอบพอ และเรื่องราวอันเต็มไปด้วยความสุข ความสดใส ที่อาบอุ่นละมุนละไม
เบื้องหลังหนทาง ทางชีวิตที่เราก้าวผ่านมา ผมเชื่อว่ามีหลายต่อหลายเรื่อง ที่คุณอยากจะทะนุถนอม และบันทึกทุกๆ เสี้ยววินาที ไว้ในความทรงจำอย่างละเอียดละออ และมีหลายต่อหลายเรื่อง ที่ทำให้คุณสำนึกรู้สึกผิดบาป และเจ็บแปลบเมื่อนึกถึงมัน และถ้าเป็นไปได้ คุณก็อยากที่จะย้อนกลับไป เปลี่ยนแปลงแก้ไขเรื่องราวเหล่านั้น ให้ดีกว่าที่เคยเป็นมา แม้จะเพียงแค่โลกแห่งความฝันก็ตาม
เรื่องราว มิตรภาพ ความผูกพัน และความผิดพลาดในหนหลังของเด็กหนุ่มสาว 8 คน ที่ได้รับฉายาว่า "โป้ยเซียน" ยังคงฝังใจคนเหล่านั้นอยู่เสมอ ไม่ว่ากาลเวลา จะผ่านมาเนิ่นนานขนาดไหน และพวกเขาจะเติบโตขึ้น ในโลกแห่งความเป็นจริง เพียงใดก็ตาม และวันหนึ่งเมื่อพวกเขามีโอกาส ที่จะก้าวเข้าไปสู่โลกแห่งความฝันได้ พวกเขาก็ไม่รีรอ ที่จะหาทางเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ เพื่อนำเพื่อนก้าวพ้นจาก เรื่องเลวร้างในอดีต แม้ว่าจะต้องแลกด้วย บางสิ่งบางอย่างในโลก แห่งความเป็นจริงก็ตาม 

วันวาเลนไทล์



ประวัติวันวาเลนไทน์
.. วันวาเลนไทน์ ..
วันวาเลนไทน์ นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยัง สืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการ ที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันในที่สุดภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) นั้น กรุงโรมได้เกิดสงครามหลายครั้ง และคลอดิอุสเองก็ประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วมในศึกสงคราม และเขาเชื่อว่าเหตุผลสำคัญก็คือ ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุสประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุงโรม ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีนักบุญผู้ใจดีคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ท่านนักบุญ " วาเลนไทน์ " ท่านเป็นพระที่กรุงโรมในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สองท่าน นักบุญ วาเลนไทน์ และนักบุญ มาริอุส ได้จัดตั้งกลุ่มองค์กรเล็กๆ เพื่อช่วยเหลือชาวคริสเตียนที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านี้ และได้จัดให้มีการแต่งงานของคู่รักอย่างลับๆด้วย และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้ นักบุญ วาเลนไทน์ ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศรีษะ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270 ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์

.. ทำไมจึงชื่อ " วันวาเลนไทน์ " ..
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น วันวาเลนไทน์ ซึ่งพวกหนุ่มสาวมักจะรีบไปซื้อบัตรส่งทักทายกันส่งใจถึงกัน นับเป็นความนิยมมากขึ้น ประเพณีนี้เข้ามาสู่ประเทศไทยทีละเล็กละน้อย และดูเหมือนจะเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี เป็นประเพณีที่หนุ่มสาวนิยมกันมากเป็นพิเศษที่สหรัฐอเมริกาและที่ประเทศอังกฤษทำไมจึงมีชื่อว่า “ วันวาเลนไทน์ ” และความหมายที่แท้จริงของวันนี้คืออะไร? และมาจากไหน?นักบุญ วาเลนไทน์ (Valentine) เป็นสงฆ์คาทอลิกองค์หนึ่งที่ได้ถูกประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คริสตศักราช 270 ในสมัยพระเจ้าจักรพรรดิโรมัน เกลาดิอุส ที่ 2 ( Clanoius) โดยแท้จริงแล้วท่านนักบุญไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเพณีการเลือกคู่ หรือหาคู่ หรือหาแฟน หรือความรัก ความสนใจระหว่างหนุ่มสาว ท่านก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วยเลย ถ้าเช่นนั้นแล้ว ทำไมจึงเลือกนักบุญองค์นี้มาเป็นองค์อุปถัมภ์สำหรับผู้ที่กำลังหาคู่ เลือกคู่หรือเลือกแฟนกันได้เล่า ? เหตุผลที่ค้นพบได้ก็คือ ที่มาของวันวาเลนไทน์ ไม่ขึ้นอยู่กับคนผู้นี้ แต่ขึ้นอยู่กับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประเพณีเลือกคู่ หรือหาคู่นี้มีมาแต่โบร่ำโบราณในทุกชาติ ดูเหมือนกับว่าได้เกิดขึ้นพร้อมกับวิวัฒนาการของมนุษย์ก็ว่าได้ ประเพณี วาเลนไทน์ นี้ก็มีต้นเหตุหรือ ที่มาสมัยที่จักรวรรดิโรมันแผ่อิทธิพลไปทั่ว ชาวโรมันสมัย โบราณมีการฉลองเทพเจ้าองค์หนึ่งชื่อ ลูแปร์คูส (Lupercus) ซึ่งตรงกับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และถือว่าเป็นการฉลองใหญ่ ส่วนหนึ่งของการฉลองใหญ่นี้ก็จะเป็นการจัดงานหาคู่ของพวกหนุ่มสาว ซึ่งจัดขึ้นในวันก่อนวันฉลองใหญ่ 1 วัน คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้จะถือโอกาสให้พวกหนุ่มสาวเสนอตัวเป็นคนรักกันชั่วระยะเวลา 1 ปี ช่วงนี้จะเรียกว่าเป็นช่วงทดลองมิตรภาพเพื่อดูว่าทั้งคู่จะมีนิสัยใจคอเข้ากันได้หรือไม่ ชาวโรมันเป็นคนศรัทธาในเทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ก็มีความเชื่อกันว่าพวกตนมีเทพเจ้าองค์หนึ่งซึ่งเขาขอให้เป็นผู้ดูแลความรักของเขาในระหว่างช่วงระยะเวลาการทดลองเป็นคู่รักกัน 1 ปี นั้น เทพเจ้าองค์นี้เป็นหญิงชื่อเทพธิดา Juno Februata ซึ่งตาม เทพนิยายของชาวโรมันเป็นมเหสีของ Jupiter องค์มหาเทพเจ้าทั้งหลายครั้นต่อมา เมื่อชาวโรมันส่วนใหญ่กลับใจมาถือศาสนาคริสต์ (ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 4 ) ประเพณีของหนุ่มสาวที่จะหาคู่เพื่อทดลองเป็นคนรักกัน เพื่อจะแต่งงานกันในเวลาต่อไปนั้นก็ยังนิยมทำกันอยู่ แม้ว่าจะเป็นคริสตชนแล้วก็ตาม ฉะนั้นเขาก็ยังรักษาประเพณีการเลือกคู่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้นอยู่ตลอดมา เพียงแต่ว่าหนุ่มสาว โรมันชาวคริสต์ได้หันมาเปลี่ยนตัวผู้อุปถัมภ์องค์ใหม่ เพราะคริสตชนไม่นับถือเทพเจ้าหรือเทพธิดาอย่างกาลก่อน เขาจึงหันมาเลือกหานักบุญในคริสตศาสนาที่มี วันฉลองในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งก็มี นักบุญวาเลนไทน์องค์นี้เอง จึงขอยืมชื่อท่านมาเป็นองค์อุปถัมภ์แทนเทพเจ้าเดิมของชาวโรมัน เรื่องราวความเป็นมามีดังนี้ ฉะนั้นถ้าท่านนักบุญมีชีวิตอยู่ท่านอาจรู้สึกงงงวยในตำแหน่งที่หนุ่มสาวได้เลือกตั้งและแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้อุปถัมภ์ โดยที่ท่านไม่ได้รู้เรื่องทางโลกของหนุ่มสาวด้วยเลยแม้แต่น้อยความรักระหว่างหนุ่มสาวนั้นอาจจะเผชิญกับอันตรายบางอย่าง และอาจจะเป็นโอกาสให้พลังและความรักนั้นทำลายความสัมพันธ์อันสูงส่งระหว่างหนุ่มสาวนั้นเอง ความหมายของการมี วันวาเลนไทน์ นี้ก็คือการช่วยหนุ่มสาวหาวิธีการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันด้วยใจบริสุทธิ์ความหมายเห็นได้ชัดในคำว่า “You are my Valentine” ที่มักจะเขียนลงในบัตรส่งใจถึงกันและกัน ประโยคตามความหมายเดิม หมายถึงว่า “ข้าพเจ้าขอเสนอตัวเป็นเพื่อนสนิทของท่านในช่วงเวลา 1 ปี และข้าพเจ้าพร้อมที่จะตกลงแต่งงานกับท่าน ถ้ามิตรภาพของเรานี้เป็นสิ่งที่ยืนยง”
ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวที่จะช่วยให้ก้าวหน้าในความรักที่แท้จริงนั้น ก็ควรจะประกอบด้วย 3 ข้อด้วยกัน ดังนี้
1. ให้รู้จักกันทั้งในด้านดี ในด้านเสีย และข้อผิดพลาดซึ่งต่างก็มีอยู่ และยอมรับซึ่งกันและกันในข้อเหล่านั้น 2. ให้เคารพและเห็นใจกัน โดยเสียสละต่อกันเพื่อให้คนรักของตนได้รับความดี และความสุขใจในทางที่บริสุทธิ์งดงาม3. ให้มีการปรับปรุง และเปลี่ยนนิสัยของตนในส่วนที่บกพร่อง เพื่อจะอยู่กันด้วยความสุขในอนาคต
ลักษณะทั้งสามดังกล่าวนี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับหนุ่มสาวไทยไม่เฉพาะ ในวันวาเลนไทน์หรือสำหรับกลุ่มที่นิยมประเพณีต่างประเทศเท่านั้น แต่สำหรับทุกคู่ที่แสวงหาวิธีการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันอัน จะนำไปสู่ความรักที่มั่นคงและยั่งยืนชั่วชีวิต

.. คิวปิด ..
คนทั่วไปรู้จัก คิวปิด ในภาพของเด็กน่ารักที่มีปีก มือถือคันธนูกับลูกศรและมีชื่อเสียงในเรื่องการยิงศรรักปักหัวใจของใครต่อใคร ศรรักของ คิวปิด หมายถึงความปรารถนาและอารมณ์แห่งความรัก คิวปิด จะเล็งลูกศรไปที่พระเจ้าและมนุษย์เพื่อทำให้พระเจ้ากับมนุษย์รักกันคิวปิดมักจะมีบทบาทในการเฉลิมฉลองความรัก ในกรีกโบราณ คิวปิด เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า เอโรส ลูกชาย แอฟโพไดท์ เทพธิดาแห่งความรักและความสวยงามแต่สำหรับพวกโรมัน เขาคือ คิวปิด และแม่ของเขาคือ วีนัส มีเรื่องน่าสนใจพอสมควรเกี่ยวกับ คิวปิด และ ไซคี เจ้าสาวของเขาในเทพนิยายโรมัน ผมขอแนะนำผู้อ่านให้รู้จักคู่รักของ คิวปิด สักนิดนะครับว่าเธอเป็นเทพธิดารูปงามในนิยายกรีกโบราณมีปีกเป็นผีเสื้อ และเพราะความงามนี้เองที่ทำให้ วีนัส อิจฉา นางจึงได้สั่ง คิวปิด ให้ลงโทษว่าที่ลูกสะใภ้เสีย แต่ คิวปิด ตกหลุมรักเธอเกินกว่าที่จะทำตามความต้องการของแม่ ดังนั้น แทนที่จะลงโทษเธอ คิวปิด กลับเอาเธอเป็นภรรยาเสียเลย แต่เนื่องจาก ไซคี มิได้เป็นอมตะ เธอจึงถูกห้ามมิให้มองเขา (ตรงนี้ผมไม่ทร าบเหมือนกันนะครับว่าเป็นไปได้อย่างไรที่ได้เธอเป็นภรรยาแล้วภรรยามองไม่ได้ แต่อย่าไปคิดอะไรมากนะครับ เพราะเทพนิยายฝรั่งก็ไม่แตกต่างอะไรไปจากละครน้ำเน่าบ้านเรา) หลังจากตกเป็นภรรยาของ คิวปิด แล้ว ไซคี ก็มีความสุขเรื่อยมา (ก็แหงละ) จนกระทั่งพี่สาวของเธอได้รบเร้าให้เธอมอง คิวปิด ทันทีที่เธอมอง คิวปิด คิวปิด ก็ลงโทษเธอด้วยการทิ้งเธอไปทันที พร้อมกันนั้นปราสาทและสวนอันสวยงามของเธอก็ต้องมลายหายไปด้วย หลังจากนั้นไซคี ก็พบว่าตัวเองอยู่ตามลำพังในทุ่งโล่งแห่งหนึ่งซึ่งไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นๆหรือ คิวปิด ปรากฏให้เห็นเลย ในขณะที่เธอออกเดินทางค้นหาคนรักของเธอนั้น เธอก็มาถึงวิหารของ วีนัส โดยบังเอิญ เมื่อ วีนัส เทพธิดาแห่งความรักพบว่า ไซคี ยังมีชีวิตอยู่ เธอก็ปราถนาที่จะ ทำลาย ไซคี ด้วยการให้งานที่หนักและอันตรายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานสุดท้ายที่ ไซคี ได้รับมิใช่งานขับเครื่องบินชนตึกเวิร์ลเทรดครับ หากแต่เธอได้รับกล่องใบหนึ่งมาและได้ถูกสั่งให้ลงไปยังใต้โลกเพื่อเอา ความงามของ โพรเซอร์พีน ภรรยาของ พลูโต ใส่กล่องใบนี้มา ในระหว่างที่เธอเดินทางอยู่นั้น เธอก็ได้รับคำแนะนำให้รู้จักการหลีกเลี่ยงอันตรายจากอาณาจักรแห่งความตาย นอกจากนั้นแล้ว เธอยังได้ถูกเตือนมิให้เปิดกล่องใบนั้นอีกด้วย แต่เพราะทนไม่ไหวหรือเพราะความอยากรู้อยากเห็นหรืออะไรก็ไม่ทราบ เธอได้เปิดกล่องใบนั้น แต่แทนที่จะพบกับความงาม เธอกลับต้องหลับเป็นตาย ต่อมา คิวปิด ได้มาพบร่างอันไร้ชีวิตของเธอบนพื้นดิน เขาจึงได้นำเอาอาการหลับเป็นตายออกจากร่างของเธอและนำมันไปเก็บไว้ในกล่อง หลังจากนั้น คิวปิด ก็ได้ให้อภัยเธอเช่นเดียวกับ วีนัส เมื่อเทพเจ้าทั้งหลายเห็นความรักที่เธอมีต่อ คิวปิด จึงได้ตั้งให้เธอเป็นเทพธิดาองค์หนึ่งปัจจุบันนี้รูป คิวปิด แผลงศรเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่ผู้คนมักนิยมใช้กัน และเมื่อศรรักของ คิวปิด พุ่งโดนหัวใจหนุ่มสาวคนใดในวันวาเลนไทน์ หนุ่มสาวคนนั้นก็จะออกอาการ "สติวปิ้ด" จากศรรักของ คิวปิด ขึ้นมาทันที อาการนี้จะเห็นได้จากการส่งดอกกุหลาบสีแดง ส่งช็อคโกแล็ต การส่งบัตรอวยพรและอื่นๆ อีกครับ หมายเหตุท้ายบท : "สติวปิ้ด" เป็นภาษาอังกฤษแปลว่า "โง่" ครับ เหมือนคำบางคำที่เราอาจเคยได้ยินว่า "ความรักบางครั้งก็ทำให้คนตาบอด และ มองไม่เห็นข้อบกพร่องของคนที่เรารัก"
อ่านตำนานของเทพ อีรอส(Eros) หรือคิวปิด(Cupid)ฉบับเต็มได้ที่นี่


.. ดอกไม้ " วันวาเลนไทน์ " ..
มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ดอกไม้แต่ละชนิดสามารถสื่อความรักได้หลาย รูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย
กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย
กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น
กุหลาบดำ หมายถึง ความรักนิรันดร์
กุหลาบแดง (red rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ" การให้ดอกกุหลาบแดงกับคนที่รักความ หมายถึงความรักอันลึกซึ้ง จริงจัง กุหลาบแดงจึงมักจะเป็นดอกไม้ ที่ชายหนุ่มให้หญิงสาวที่ตนเองตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน
กุหลาบขาว (white rose) : สีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธ์ กุหลาบขาวจึงแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ดังนั้นมันจึงสามารถใช้แทนความรักของคนต่างวัย ความรักต่อพ่อแม่ เพื่อน หรือคนที่เรารู้สึกดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจได้
กุหลาบชมพู (pink rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน การให้ดอกกุหลาบสีชมพูสามารถแสดงถึงความรัก ที่กำลังเริ่มงอกงามในใจ และสามารถพัฒนาต่อไปเป็นความรักที่ลึกซึ้งได้
กุหลาบเหลือง (yellow rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส กุหลาบสีเหลืองถูกใช้สำหรับแทนความรักแบบเพื่อน และความ สนุกสนานรื่นเริงจึงมักจะนำมันมาประดับตะกร้าสำหรับเยี่ยมผู้ป่วย เพื่อทำให้คนป่วยรู้สึกสดชื่นรื่นเริงขึ้นนั่นเอง
สำหรับดอกไม้อื่น ๆ ที่ถูกมาใช้แทนความหมายแห่งความรักก็มี ดอกทิวลิบสีแดง (red tulib) ชาวตะวันตกใช้มันแทนการประกาศความรัก อย่างเปิดเผย คล้าย ๆ กับดอกกุหลาบแดง
ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู (pink carnation) ใช้สื่อความหมายว่า "ถึงอย่างไรผมก็ยังรักคุณ" หรือ "คุณยังอยู่ในหัวใจฉันเสมอ"
ดอกลิลลี่สีขาว (white lilly) แสดงความรักแบบบริสุทธ์ เช่นเดียวกันกับดอกกุหลาบขาว นอกจากนั้นลิลลี่สีขาวยังแสดงถึงความรักแบบอ่อนหวานจริงใจ และเทอดทูน และมักถูกใช้แทนประโยคที่ว่า "ฉันรู้สึกดี ๆ ที่ได้ได้รู้จัก และอยู่ใกล้คุณ "
สำหรับดอก forget-me-not มีความหมายตรงตัวคือได้โปรดอย่าลืมฉัน และอย่าลืมความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กัน
มาถึงดอกไม้ที่เห็นได้ทั่วไปในบ้านเราบ้างดอกทานตะวัน (sunflower) มีความหมายถึงความรักแบบคลั่งไคล้ ความรักแบบบูชา แต่สำหรับชาวตะวันตก ดอกทานตะวันจะหมายถึงความเข้มแข็งอดทน จึงสามารถใช้แทนความรักที่ต้องฝ่าฟันกว่าจะได้ความรักมา
จะเห็นได้ว่าดอกไม้เป็นประดิษฐกรรมทางธรรมชาติที่มนุษย์เรานำมาใช้เป็นสื่อแทนความหมาย แห่งความรักได้หลายรูปแบบ การมอบดอกไม้ให้กับคนที่เรามีความรู้สึกพิเศษจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ... Vlentine นี้คุณมีดอกไม้ในใจที่จะให้คนที่คุณรักแล้วหรือยัง
วันวาเลนไทน์ในประเทศญี่ปุ่น วันวาเลนไทน์กับชอคโกแลต ช๊อกโกแล็ต
.. ชอคโกแลตกับวันวาเลนไทน์ ..
ในวันวาเลนไทน์ที่ประเทศญี่ปุ่น ฝ่ายหญิงนิยมที่จะมอบชอคโกแลตให้กับฝ่ายชาย (ส่วนผู้ชายจะมอบของขวัญตอบแทนให้กับผู้หญิงในวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งเรียกวันนั้นว่า White Day หรือ วันสีขาว) ความนิยมการมอบชอคโกแลตนั้นเกิดขึ้นมาจากการใช้เครื่องมือทางการตลาดของบริษัทผลิตชอคโกแลต ผู้หญิงญี่ปุ่นถูกกระตุ้นให้บอกรักอย่างชัดเจนกับผู้ชายโดยการมอบชอคโกแลตและของขวัญชนิดอื่นในวันที่ 14 กุมภาของทุกปี ร้านขายของชำ ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อจะขายชอคโกแลตที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น ชอคโกแลตที่ผลิตในประเทศหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ มากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายชอคโกแลตทั้งปีนั้น จะมาจากช่วงวันวาเลนไทน์ เหตุก็เพราะผู้หญิงแดนอาทิตย์อุทัยจะซื้อชอคโกแลตเพื่อแจกให้กับทั้งเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า เพื่อนชาย พี่ชาย คุณพ่อ สามี แฟน และผู้ชายที่เธอรู้จักและมีความยินดีที่จะมอบให้ ชอคโกแลตที่มอบให้กับผู้ชายที่เธอไม่ได้หลงรัก ถูกเรียกว่า “giri-choco” (แปลว่า ชอคโกแลตที่ให้ตามหน้าที่ หรือ ชอคโกแลตตามมารยาท) เช่น ชอคโกแลตที่มอบให้กับเพื่อนร่วมงาน หรือกับหัวหน้างานเป็นต้น ผู้ชายส่วนใหญ่จะรู้สึกอับอายอย่างมาก ถ้าพวกเขาไม่ได้รับชอคโกแลตในวันนี้ ผู้หญิงจึงพยายามมอบ giri-choco กับผู้ชายที่รู้จักทุกคน เพียงเพื่อไม่ให้ผู้ชายต้องมีความรู้สึกว่าตัวเขานั้นไม่ได้รับการใส่ใจ ราคาโดยเฉลี่ยของ giri-choco ตกประมาณอันละ 100 – 300 เยน ผู้หญิงบางกลุ่มมีแนวโน้มที่จะให้ของขวัญพิเศษกับคนที่ตนรัก เช่น เนคไทค์ และเสื้อผ้าควบคู่ไปกับชอคโกแลตด้วย ชอคโกแลตประเภทนี้จะเรียกว่า "honmei-choco." (แปลว่า ผู้ชนะที่คาดหวังไว้ prospective winner) Honmei-choco จะมีราคาที่แพงกว่า giri-choco และบางครั้งจะเป็นชอคโกแลตทำเอง ซึ่งผู้ชายที่ได้รับนั้นถือว่าโชคดีมาก ชอคโกแลตญี่ห้อดังของญี่ปุ่นได้แก่ Glico, Meiji และ Morinaga แต่ผู้ชายบางคนมักจะพอใจกับชอคโกแลตทำเองมากกว่า เพราะมันจะแสดงออกถึงความตั้งใจของคนทำนั่นเอง
บทความจาก Setsuko Yoshizuka

47 คำหวานๆสำหรับคนมีแฟน แต่เน่าๆสำหรับคนโสด


47 คำหวานๆสำหรับคนมีแฟน แต่เน่าๆสำหรับคนโสด



1. คนดี ขอให้นอนหลับฝันดี คืนนี้จะไปเข้าฝัน



2.พี่ไปส่งมั้ย น้องต้องเดินอีกไกลนะ กว่าจะพ้นใจพี่



3.เรื่องเนี้ยะ เริ่มต้นด้วยร้าย แต่ลงท้ายด้วยรักนะจ๊ะ



4.ไข่พะโล้หนะ สีดำ แต่คนทำอะ หัวใจสีชมพู



5.ติดกาแฟ เลิกได้ ติดบุหรี่ เลิกได้ แต่ติดใจเธอ เลิกไม่ได้จริงๆ



6.มีใจแค่1ดวง ครึ่งแรกบอกว่า คิดถึง อีกครึ่งหนึ่ง บอกว่า รัก



7.ที่หายหน้าไป ไม่ใช่ไม่รัก แต่หมอให้พัก ลดน้ำตาล ในหัวใจจ๊ะ



8.ฉันเกิดมา อาภัพ ต้องอยู่แบบ หลบๆซ่อนๆ ก็ซ่อนใน หัวใจเธองัย



9.หัวใจไม่ว่าง เหมือนเดิม เพราะมีเธอ มาเพิ่มเติม ในใจ



10.อยากรู้มั้ย ฉันรักใคร ส่องกระจกสิ จะได้คำตอบ



11.ยังตัดสินใจไม่ได้ใช่ไหม เอางี้โยนหัวก้อยกัน ถ้าออกหัวเธอมาเป็นแฟนฉัน ถ้าออกก้อย ฉันจะยอมเป็นแฟนเธอ



12.อยากจะเขียนคำว่ารักตัวเท่าบ้าน คงต้องหากระดานแผ่นใหญ่ๆอันสมุดเล่มนี้มันเล็กไป คงต้องเอาหัวใจมาเขียนแทน



13.ไม่ได้คิดถึงเธอทุกนาที แต่คิดถึงเธอตลอดที่มีลมหายใจ



14.ถ้าพรุ่งนี้ผมตายไปก็คงไม่แปลก เพราะชีวิตผมที่เกิดมามีหน้าที่เพียงแค่มาพบคุณในวันนี้เท่านั้นเอง



15.ผมมันคนใจแคบ ในนั้นเลยมีที่ว่างพอสำหรับคุณเพียงคนเดียว


16.เป็นการยากที่จะเข้าใจในคำว่ารักแต่ยากยิ่งนักหากจะรักอย่างเข้าใจ


17.ผมมันเป็นคนไม่มีหัวใจ ก็เพราะหัวใจของผมนั้นดันไปอยู่ที่คุณ




18.ความรักของเราเหมือนเส้นขนาน แม้จะไม่มีวันมาบรรจบกันแต่ก็จะเคียงคู่กันตลอด ไป


19.ถึงผมจะเป็นคนหลายใจ แต่ในทุก ๆ หัวใจก็มีแต่เธอ


20.โทรศัพท์มือถือยิ่งโทรยิ่งกินเงิน แต่โทรหาคุณยิ่งโทรยิ่งกินใจ


21.ผมขอถามทางคุณหน่อยได้ไหมครับ? ทางไปหัวใจคุณ


22.ช่วยกดลิฟท์ให้หน่อยครับ? ผมจะไป ชั้น..รักเธอ


23.คุณได้ยินเสียงอะไรมั๊ยครับ....เสียงหัวใจผมมันบอกว่ารักเธอ


24.เอ่อ..ไม่ทราบว่าเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึป่าวครับ อ๋อ คงจะเป็นในฝันของผม


25.ทำไมวันนี้ท้องฟ้าไม่สวยเหมือนทุกวัน คงเป็นเพราะคุณสินะ


26.ผมชักอึกอัดแล้วสิ ก็คุณเล่นเข้ามาเบียดอยู่ในใจผมตลอดเวลาเลย


27.เดินดีๆนะครับ...ระวังจะสะดุดรักผม


28.ตั้งแต่ผมได้รู้จักกับคุณ ทำให้ผมได้เจออะไรบางอย่าง เจอละไม ใจละเมอ


29.เผอิญผมมันพวกคนใจแคบหนะครับ ในนั้นเลยมีที่ว่างให้คุณได้เพียงคนเดียว


30.ความรักของผมกับคุณเหมือนเส้นขนาน แม้มันอาจจะไม่มีวันมาบรรจบกัน แต่มันจะ


เคียงคู่กันตลอดไป


31.ถึงผมจะเป็นคนหลายใจ แต่ในทุกๆหัวใจก็มีแต่คุณ


32.ผมทำให้คุณได้ทุกอย่าง ยกเว้นแค่เหาะขึ้นไปบนฟ้า กับการไม่รักคุณ


33.ผมมันเป็นคนไม่มีหัวใจ... เพราะผมเอาให้คุณไปแล้ว ตั้งแต่วันที่เราพบกัน


34.เมื่อคืนที่บ้านไฟดับ แต่ผมไม่ต้องใช้ไฟฉาย หรือเทียนเลยครับ เพราะแค่นึกถึงคุณ โลกของผมก็สว่างไสว

ไปหมดแล้ว


35.ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของผม.... คุณไปอยู่ไหนมาครับ?


36.ผมยอมอายุสั้นลงไป 1 ปี... แลกกับการคุยกับคุณ 1 นาที


37.ผมไม่หวังอะไร ขอแค่ได้เห็นหน้าคุณ ถึงต้องอายุสั้น ตายไปต่อหน้าคุณ ผมก็ยอม


38.รู้ตัวไหม ว่าคุณคือผู้หญิงคนแรก ที่เห็นแล้วผมนึกอยากปลูกต้นรัก


39.คุณทำให้ขาผมแพลง เพราะตกหลุมรักคุณไม่เป็นท่า


40.ไม่สบายไป x-ray หัวใจมา หมอบอกว่าข้างในหัวใจมีแต่เธอ


41.ร้อนจัง อาบน้ำ ก็ยังไม่หาย นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ก็ยังไม่หายคิดถึงเธอ


42.โทษครับ กี่โมงแล้วครับ วันเวลาของผม มันหยุดไปหมดเมื่อพบคุณ


43.ถ้าคิดถึงคุณ แล้วต้องเสียตังค์ครั้งละบาท ผมคงหมดเนื้อหมดตัวภายในวันเดียว


44.คุณท่าทางจะมีโชคนะ ผมเป็นหมอดู ดูดวงจากเบอร์โทรศัพท์ บอกเบอร์มาสิครับ ผมจะทายให้


45.ผมคงต้องไปรับลอตเตอรี่มาขายซะแล้ว เพราะความรักของคุณมันทำให้ผมตาบอด


46.ถ้าเธอเป็นโคลน ฉันจะยอมเป็นควาย จะได้จมปลักรักเธอตลอดไป...


47.เวลาเห็นหน้าคุณทีไร ผมมักจะเป็นโรคชักทุกทีเลยอะ...ชักใจอ่อน...

**บทความเกี่ยวกับเพื่อน

****บทความเกี่ยวกับเพื่อน****

เพื่อน.....................
สำหรับปุ้ยแล้ว คำนี้สำคัญมากเลยน่ะ
ลองไปดูบทความที่ปุ้ยนำมาแบ่งปันกันดูเลยดีกว่าค่ะ


------------ถ้าไม่.. แล้วอะไรล่ะ

ที่ทำให้เรามาพบกับคนอีกหลายคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน

ถ้าไม่.. แล้วอะไรล่ะ

ที่ทำให้เราถูกชะตาจนเรียกคนๆนั้นว่า “เพื่อน”

.......เพื่อน..... คนๆนึงที่ครั้งนึงก็เป็นได้แค่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง

เวลา ผ่าน เวลา คนแปลกหน้าคนนั้นก็กลับกลายมาเป็นคนที่เรา “ไว้ใจ”

.......เพื่อน..... คนที่พร้อมอยู่กับเราเสมอๆ

ไม่ว่า สุข ทุกข์ เหงา เศร้า

.......เพื่อน.....

คนที่พร้อมแชร์ความรู้สึกต่างๆโดยไม่เคยเอ่ยปากว่า

“ถ้าทำอย่างนั้นแล้วฉันจะได้อะไร ”

.......เพื่อน..... คนที่ไม่เคยสนใจว่าเราจะหน้าตาดี มีสกุล ร่ำรวย

ยากจน สูง ต่ำ ดำ ขาว หรือไม่

.......เพื่อน..... คนที่ไม่เคยเสแสร้ง แกล้งทำ

........แต่...... เพื่อนตาย หายากเหลือเกิน

เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ ว่า คนๆนี้เป็นเพื่อนตายของเราหรือไม่

เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่าคนๆนี้

เป็นคนที่พร้อมจะเคียงข้างเราเสมอไปมั้ย

เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่าคนๆนี้จริงใจกับเราแค่ไหน

ทั้งหมดนี้ เราใช้ “ ตา ” มองไม่เห็น

........แต่...... ทั้งหมดนี้เราใช้ “ ใจ ” มองเห็นได้

เมื่อบทความ ล่วงเลยมาถึงตอนนี้ คุณล่ะ ?

ใช้ตามองเพื่อน หรือใช้ใจมองเพื่อน เราบอกไม่ได้ว่าคนๆไหนดี ไม่ดี

จนกว่า... เราจะมีโอกาส รู้จัก กับคนๆนั้น แล้วใช้ใจของเราสัมผัส

การคบใครสักคน คบเพียงกายก็ไร้ประโยชน์ แต่ การคบใครสักคน

จำเป็นต้องคบกันด้วย ใจ

วันนี้ คุณ ใช้อะไร คบเพื่อนของคุณ อย่าบอกนะ

ว่าคุณก็เป็นคนที่คบเพื่อนแค่ ตา เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น

คุณก็คงเป็นคนที่ไม่น่าคบคนหนึ่ง



---------------------------------------------------------------------------


รอยจารึก .........เพื่อนสนิทสองคนเดินทางท่องเที่ยวร่วมกัน
ระหว่างยํ่าเท้าผ่านทะเลทราย
ทั้งสองโต้เถียงกันรุนแรงจนเพื่อนคนหนึ่งโมโหมาก
ตบหน้าเพื่อนอีกคน ผู้ถูกตบหน้าเจ็บปวดทั้งกายและใจ
เขาไม่พูดอะไรเลย ขณะที่เขียนข้อความหนึ่งลงบนทราย
"วันนี้...เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันตบหน้าฉัน"
......ทั้งคู่เดินทางต่อไป เมื่อพบโอเอซิสแห่งหนึ่งจึงตัดสินใจอาบนํ้า
เพื่อนคนที่ถูกตบหน้าพลัดตกนํ้าและจมลงเรื่อยๆ
อีกคนจึงรีบช่วยเพื่อนให้พ้นความตาย เมื่อหายตกใจแล้ว
คนจมนํ้าก็เขียนข้อความลงบนก้อนหิน
"วันนี้...เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันช่วยชีวิตฉันไว้"
เมื่อเพื่อนถาม เพื่อนก็ยิ้มแล้วตอบว่า
"เมื่อเพื่อนทำร้ายเรา เราจะบันทึกไว้บนผืนทราย
เพื่อให้สายลมแห่งการให้อภัยลบความเจ็บปวดนั้นทิ้งไป
และเมื่อเพื่อนทำในสิ่งประเสริฐสุดให้
เราจะจารึกไว้บนก้อนหินแห่งความทรงจำในหัวใจ
ซึ่งลมพายุไม่สามารถลบมันออกได้..."

...เพราะ.....".เพื่อนแท้มิได้หาง่ายๆเหมือนแฟน " ว่ามะ?


-----------------------------------------------------------------------------

นิยามของคำว่าเพื่อน ไหล่ของฉัน มันไม่ได้มีความหมายเพียงเพื่อประคองหัวฉันไว้คนเดียวเท่านั้น แต่สามารถใช้มันเพื่อให้เพื่อนไว้พิงได้ด้วย
เสื้อของฉัน ไม่ได้มีไว้ห่อหุ้มร่างกายของฉันเพียงอย่างเดียว มันพร้อมจะเป็นที่เช็ดน้ำตา และสั่งขี้มูกของเพื่อน ถ้าต้องการ
แขนของฉัน ไม่ได้มีไว้จูงหมาเดินเล่น แต่มันสามารถใช้ประคองเพื่อนเมื่อเพื่อนจะล้ม.... แต่ถ้าเพื่อนล้มลงแล้ว ฉันก็ยังมีมืออีก 1 คู่ไว้ช่วยฉุดเพื่อนขึ้นมา
ปากของฉัน ไม่ได้มีไว้เพื่อกิน และพูดพล่ามทั้งวันหรอกนะ แต่มีไว้พูดให้กำลังใจเพื่อน เมื่อถึงคราวจำเป็น
ตาของฉัน มีไว้เพียงเพื่อกระพริบขึ้นลงเสียเมื่อไหร่ ฉันเอาไว้ใช้มันมองสิ่งดีๆ ในตัวเพื่อนต่างหาก
ฟันของฉัน ก็ไม่ได้มีไว้กัดใครๆเขา แต่มีไว้เพื่อจะใช้มันประดับเหงือกทุกครั้งที่ฉันยิ้มให้เพื่อน
หูของฉันไม่ได้มีไว้เพื่อเจาะรูหูแขวนเครื่องประดับ แต่มันใช้ฟังเพื่อน เมื่อเพื่อนต้องการระบายอะไรออกมาให้ฉันฟัง
เท่าของฉัน ไม่ได้มีไว้เพื่อสะสมกลิ่น.. โอเคถึงมันจะมีบ้าง แต่ฉันจะใช้เท้าเพื่อเดินอยู่ข้างๆ เพื่อนนี่แหละ จะไม่ไปไหนไกล
สมองของฉัน อาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์เวลาสอบนัก แต่มันจะทำงานหนักเพื่อเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ
ส่วนพวกตับ ไต ไส้ กระเพาะ ม้าม เซี่ยงจี๊ ของฉัน .... มันมีไว้ทำหน้าที่ของมันน่ะแหละ
แต่ถ้าเพื่อนต้องการมันอย่างเร่งด่วน ฉันยินดีสละให้ (อย่างละครึ่งเท่านั้นนะ !!)
และหัวใจของฉัน ก็ไม่ได้มีไว้สูบฉีดเลือดเพียงอย่างเดียว แต่มันทำหน้าที่เก็บเพื่อนไว้ข้างในอีกด้วย...



-----------------------------------------------------------------------------

ทิฐิเพียงคำเดียว ....คุณเคยใช้คำพูดที่พูดออกไปด้วยอารมณ์ ความคะนอง
แต่แล้วคำพูดที่พูดออกไป ทำร้ายความรู้สึกดีๆของอีกฝ่าย
ผู้ฟังฟังแล้วเสียความรู้สึกดีๆไป....

.......จะเป็นด้วยความตั้งใจที่จะพูดออกไปหรือไม่ก็ตามแต่
สุดท้ายคนที่รับฟังประโยคเหล่านั้นรู้สึกผิดหวังที่ได้ยินอย่างนั้น

........คุณอาจจะรู้สึกดีที่ได้พูดอย่างนั้นออกไป ได้ระบายความรู้สึก
แต่ภายหลัง...คุณกลับมานั่งขบคิดในสิ่งที่คุณทำลงไป
คุณกำลังทำลายความรู้สึกดีๆระหว่างกันลงไป
คุณเริ่มรู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ทำลงไป

........คำพูดที่หลุดออกจากปากไปแล้ว
มันคืออดีตที่แก้ไขอะไรไม่ได้เลย
มีแต่สติเท่านั้นที่ควบคุมคำพูดที่จะออกจากปากไม่ให้พลั้งเผลอพูดในสิ่งไม
่สมควร เพียงแต่เราขาดสติควบคุม
คำพูดที่หลุดออกไปก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่งทัน
ที

........บางครั้งคุณอยากจะเป็นฝ่ายกล่าวขอโทษในสิ่งที่คุณกล่าวซึ่งทำร้าย
ความรู้สึก ดีๆของอีกฝ่าย
เพียงแต่คุณไม่กล้า คุณมีทิฐิ
คุณเป็นฝ่ายลังเลที่จะกล่าว อยากให้อีกฝ่ายยกโทษให้คุณ แต่ในใจคุณ
ความมีทิฐิ กลัวเสียหน้า
ข่มความกล้าที่จะทำให้คุณเป็นฝ่ายเริ่มต้นกล่าวก่อน
คุณกลับรอเวลาให้ผ่านไปด้วยหวังว่าเวลาที่ผ่านไป...ทุกอย่างก็จะดีเอง

.......คุณเคยคิดบ้างไหมว่า
เวลาที่ผ่านไปยิ่งทำให้ทุกอย่างไม่ดีขึ้นเลย อีกฝ่ายที่รับฟังคำพูดของคุณ
ถึงแม้ว่าคำพูดที่ผ่านไปมันกลายเป็นอดีต
แต่ความรู้สึกมันยังคงค้างอยู่ในใจ

.......ถ้าทิฐิมันทำลายความรู้สึกที่ดีระหว่างกัน
มีประโยชน์อะไรที่คุณจะถือทิฐิเอาไว้กับตัว คุณควรจะปล่อยทิฐิตรงนั้นไป
การกล่าวขอโทษ
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่และยากในยามที่ความรู้สึกดีๆระหว่างกันเกิดร
อยร้าวขึ้น

ความรู้สึกดีๆจะกลับมาก็เพียงแต่คุณกล้าที่จะเริ่มต้นกล่าวคำขอโทษออกไป

.......ถามใจตัวคุณเองว่า
คุณยังให้ความสำคัญกับคนๆนั้นอยู่ไหม
ไม่ต้องกลัวเสียหน้าถ้าคุณจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นกล่าวก่อน หลังจากกล่าวออกไป
คุณจะรู้สึกว่าจิตใจคุณบางเบา
อีกฝ่ายคงรู้สึกดีที่ได้ยินอย่างนั้นและยินดีจะให้อภัยคุณ

......ผมเคยมีทิฐิและไม่ยอมที่จะลดละความมีทิฐิ
สุดท้ายผมพบว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรจากการทำแบบนั้น
แล้วกลับมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแทน

......ถ้าความรักหมายถึง การไม่โกรธ และให้อภัย
คนที่คุณรักเขาคงยินดีและไม่โกรธเมื่อได้ยินคำขอโทษจากคุณ
และเขาก็ยินดีที่จะให้อภัยคุณตราบเท่าที่เขายังรักคุณอยู่


-----------------------------------------------------------------------------


เพื่อนที่คบอยู่เป็นแบบไหน เราได้คลาสสิกฟายประเภทของเพื่อนหลักๆลองดูครับว่าคุณมีเพื่อนแบบไหน?
1. เพื่อนแท้ (Real Friends) : เรียล เฟรนด์ หรือจะเรียกว่า ออริจินอล เฟรนด์ ก็ได้ครับ เพื่อนประเภทนี้จะอยู่กับคุณไปจนวันตาย เพื่อนแบบนี้หายากครับ ยากมากๆ บางที ขุดหาทองถ้ำลิเจีย ยังหาง่ายกว่าเลย .. ฉะนั้นผมขอผ่านครับ แบบนี้ไม่มีทางมีในโลก ... แต่สำหรับไอ้ใครที่จู่ๆ มีเพื่อนมาบอกว่า "ผมเป็นเพื่อนแท้ของคุณนะ" ... ขอให้สันนิษฐานครับ (โดย เฉพาะเพศเดียวกัน) เขากำลังมองประตูหลังคุณอยู่แน่นอน ..
2. เพื่อนซี้ (Cee Friends) : เพื่อนแบบนี้ ส่วนมาก จะเป็นเพศเดียวกันครับ เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม จอร์จ ที่สุดแล้วครับ มีอะไรเราคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอาเปรียบ ไม่เบียดเบียน ซึ่งกันและกัน ปรับทุกข์กันได้ แถมบางทีโกรธกันจนขนาดต้อง ชกกันก็มีครับ แต่สุดท้ายก็เคลียร์กันได้ ไม่หยิ่ง ไม่เรื่องมาก ไม่ขี้งอน ถือว่าเยี่ยมครับ !!! ครบทุกรสชาติ สุขทุกข์ ดีชั่ว ต้องแบบนี้ครับ เพื่อนซี้ ...
3. เพื่อนสนิท (Endorphin) : เพื่อนประเภทนี้ ส่วนใหญ่ใช้กับเพศตรงข้ามมากกว่า และที่สำคัญไปกว่านั้น คนที่บอกว่าเป็น "เพื่อนสนิท" มักที่จะใช้พูดแก้ตัวกับคนอื่น ทั้งๆ ที่ความจริงนะมันคือแฟนกันแล้ว แต่ก็ไปบอกชาวบ้านว่า เป็นแค่เพื่อนสนิท หรืออีกนัยหนึ่ง เพื่อนสนิทก็ยังเป็นคำพูดที่ใช้กันมานาน และยังคงอินเทรน ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เพราะมันเป็นคำพูดปฏิเสธรักแบบอ้อมๆ ละครับ ฉะนั้น ใครที่โดนแบบนี้ ใส่เกียร์ถอยหลังตอนนี้ ยังไม่สายครับ ..
4. เพื่อนร่วมงาน (Cooperative Friends) : เพื่อนร่วมงาน เป็นเพื่อนที่ทำงานอยู่ด้วยกัน เพื่อนประเภทนี้อาจจะไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ แต่มีอะไรคุยกันได้ครับ เจอกันคุยกันเรื่องงานอย่างเดียว อาจจะมีการถามสารทุกข์สุกดิบกันบ้าง นิดๆ หน่อยๆ พอหอมปากหอมคอ แต่ส่วนมากก็จะช่วยเหลือเกื้อกูลกันครับ โดยรวมแล้วถือได้ว่าดีใช้ได้ทีเดียวครับ ...
5. เพื่อนผิวเผิน (Surface Friends) : แน่นอนครับ เพื่อนประเภทนี้ เชื่อว่าทุกคนมีเยอะมากๆ เพื่อนประเภทนี้มักจะเจอตอนช่วงโมงเร่งด่วน (Rush Hour) เช่นรีบไปเรียน รีบไปทำงาน รีบไปขึ้นรถ หรือว่า เค้าแกล้งรีบ (เพราะไม่อยากเจอคุณ) อะไรประมาณนี้ เจอกันมักจะเจออยู่ 2 คำถาม ครับว่า "ไปไหน ??" ถ้าอยู่มหาลัยก็จะถามว่า "เรียนอารายย ??" ประมาณนี้ครับ ...
6. เพื่อนรับประทาน (Eating Friends) : เพื่อนแบบนี้ ก็เป็นเพื่อนที่เวลาคุณไปไหน เค้าจะไปด้วยกับคุณเสมอไม่ว่า คุณจะชวนไปกินข้าว ชวนไปเที่ยว ชวนไปดูหนัง เขามักจะไม่ค่อยปฏิเสธคำเชิญของคุณครับ แต่เขามักจะมี คำพูดพ่วงท้ายหลังคำถามของท่านมาว่า "เลี้ยงป่าว" เสมอครับ ...
7. เพื่อนกล้วย (Banana Friends) : เพื่อนประเภทนี้เรียกได้ว่าเข้าขั้นสุดครับ นอกจากจะเป็นเพื่อนรับประทานแล้ว ยังเป็นเพื่อนที่จะคอยข่มขู่ท่านให้รู้สึกหวาดกลัว ในบางสิ่งบางอย่าง จนคุณอาจจะต้องทำสิ่งที่เค้าต้องการให้คุณทำครับ แน่นอนครับ เพื่อนแบบนี้คงจะไม่มีใคร อยากมีแน่ๆ แต่ในเมื่อถ้ามันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องทนต่อไปละครับ ...
8. เพื่อนตาย (Dead Friends) : ก็ไปงานศพเค้าสิครับ

เพราะเพื่อน .. เหมือนเสี้ยวหนึ่งของหัวใจ


~~~~เพื่อน~~~~เพราะเพื่อน ..
เหมือนเสี้ยวหนึ่งของหัวใจ
รัก..ที่มีความสุข เเม้จะไม่มีสิ่งใดตอบเเทน
รัก..ที่ที่ทำให้ยิ้มไปด้วยกันเมื่อเรายิ้ม เเละร้องให้ด้วยกันเพราะเราเศร้า
ไม่ได้เกิดมาพร้อมหน้าที่ .. อย่างคำว่า .. พ่อแม่
ไม่ได้จบลงพร้อมหน้าที่ .. อย่างคำว่า .. แฟน

แต่เกิดจาก ..
การกระทำซึ่งกันและกัน
จะอยู่หรือไป .. ใช้ "ใจ" เป็นเกณฑ์
จะอีกกี่นาน .. เพื่อนก็ยังเป็นทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ไม่มีวันเลือนหาย
เพื่อนคือคนที่เรามั่นใจ อยากไปหามากที่สุด ไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข

เพื่อนคือคนที่เราไม่ต้องนอนร้องไห้ คอยโทรศัพท์ทั้งคืน .. เพื่อนก็โทรมาหา

ฐานะ .. ไม่ใช่ตัววัดว่าใครเหมาะสมจะเป็นเพื่อนใคร
หน้าตา ..ไม่ใช่มาตรฐานบอกว่า ใครควรจะเป็นเพื่อนใคร
แต่น้ำใจ .. จะเป็นเครื่องชี้ให้เรารู้ว่า ใครที่ควรจะเป็นเพื่อนของเรามากกว่า

เพื่อนคือ .. คนที่แอบมาปรุงแต่งชิวิตเรา ซะจนกลายเป็นอาหารจานแปลก
มีทั้ง หวาน ขม อม เปรี้ยว
เดี๋ยวเติมความห่วงใย เดี๋ยวใส่ความรัก
หมักความผูกผันจนได้ที่
สุดท้ายก็กลายเป็นอาหารจานดี ที่ไม่มีผีกชีโรยหน้า
แต่ว่าเติมความจริงใจได้จนเต็มจาน

เพื่อน .. ก็เหมือนเสื้อตัวเก่ง
ที่เราจะหยิบมาใส่ทุกครั้งที่เราต้องการรความมั่นใจ
และเมื่อพ้นเวลานั้นไป..
เสื้อตัวนี้ก็ยังแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าใบเดิมเสมอ
เหมือนกับเพื่อนที่จะอยู่กับเราในวันที่เราไม่สบายใจ




เพื่อนมีอะไรหลายอย่างที่เราไมได้จากใคร



...................................................................................................................................................................................

เพื่อนเท่านั้น จะไม่ลืมกัน
ถึงเเม้กาลเวลาเก่าๆ กำลังจะเลือนหายไป
รอยยิ้มเก่าๆ ลายมือเก่าๆ ความทรงจำเก่าๆ ที่เคยมี
เก้าอี้ตัวเดิม โต๊ะตัวเดิมที่เราเคยนั่งด้วยกัน
มุมๆเก่า ที่ที่เป็นมุมขาเม้าท์ที่ให้เราซุบซิบกัน
มันกำลังจะเลือนหายไปเพราะเราต้องจากกัน
คนละที่ คนละ รร. ไม่สำคัญว่าเราจะจากกันไกลเเค่ไหน
นานเท่าใด
สำคัญเพียงว่าเราจะจำเพื่อนที่เเสนดีคนนี้ได้มากเเค่ไหน
เเละคิดจะจดจำเขาไว้หรือเปล่า
**********

อยากให้เธออยู่ตรงนี้
เป็นเพื่อนที่แสนดีข้าง ๆ ฉัน
มีความรู้สึกดี ๆ มาแบ่งปัน
เป็นกำลังใจให้กันและกันตลอดไป

วันเกิดของเธอในปีนี้
ฉันก็มีความรู้สึกดี ๆ มามอบให้
อยากให้เธอช่วยดูแลด้วยหัวใจ
หากมีใจช่วยเก็บไว้ให้ดี ๆ

ฤดูกาลผันผ่าน
อาจเปลี่ยนวันวานตามไปได้
แต่ตราบใดที่ภาษายังไม่เปลี่ยนไป
คำว่า "เพื่อน" เขียนอย่างไร
ความหมายย่อมเหมือนเดิม

ไม่มีเงินเป็นล้านมาส่งให้
มีแต่ใจกับตัวร่วมผสม
ฝากความสุขพร้อมกับความรื่นรมย์
ให้ชื่นชมยินดีปีใหม่เอย

ส่งความสุขมาเผื่อเธอ
ขอให้เจอะเจอแต่ความสมหวัง
กับความรักที่มีให้อย่างจริงจัง
ขอให้เธอสุขสมดังฝันที่ตั้งใจ

Happy Birthday นะคนดี
รู้ว่าวันนี้..เธอคงสุขสันต์
เพราะมีใครบางคน happy ด้วยกัน
พร้อมกับของขวัญที่เธอพอใจ..
ไม่ได้จะวุ่นวายกับเธอหรอก
แค่อยากบอกให้เธอรู้เอาไว้
จะวันเกิดวันนี้ - - หรือวันอื่นต่อๆ ไป
เธอยังมีความห่วงใย - - จากใครบางคน

มีเพื่อนใครไม่ได้เรื่องเท่าเพื่อนฉัน
วันทั้งวันสร้างปัญหามาใส่หัว
กินกับนอนจนขนอ่อนขึ้นเต็มตัว
แต่ก็กลัวมันเลิกคบเคยคบมัน...

เป็นอีกบทบันทึกหนึ่งในหัวใจ
ที่ฉันจะจดจำไว้--ตราบวันหน้า
เป็นความงดงามอีกช่วงหนึ่งของเวลา
ที่มีค่ามากเกินกว่าจะลืมเลือน
สิ่งหนึ่งที่ฉันจะนำติดตัวไป
คือความอบอุ่นในความหมายของความเป็นเพื่อน
อีกเนิ่นนานเท่าไร--ไม่อาจเลือน --
เธอจะเป็นคนรู้จักอีกคนหนึ่ง
ที่ฉันจะนิยามเป็นคำว่า "เพื่อน" ไว้ที่ใจ...

ทะเลหมอกและดอกหญ้าภูผาและฟ้าใส
นกน้อยและกลอยใจ สายใยและไมตรี
นี่คือสายใยรักที่มักไม่หลีกหนี
หยิบยื่นสิ่งที่ดี แด่เพื่อนที่ห่างไกล...

คำว่าเพื่อนมีความหมายมากมายนัก
แปลว่า รัก ภักดี มีใจให้
แปลว่า คอย ห่วงหา และอาลัย
แปลว่า มี อภัยให้แก่กัน

ไม่มีมิตรภาพใด-ใด
ที่จะคงไว้ได้นานเท่าความเป็นเพื่อน
จะเนิ่นนานเพียงใดก็ไม่ถูกลบเลือน
ความเป็นเพื่อนนั้นคงอยู่ตลอดไป
จึงอยากบอกเธอให้รู้ไว้
ความรักที่เธอได้มอบให้กับฉัน
ช่วยเปลี่ยนได้ไหม...เป็นความผูกพัน
ความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน...ตลอดไป

โรงเรียนหยุดตั้งหลายวัน
ไม่รู้ว่าเพื่อนๆจะคิดถึงกันบ้างไหม
ไม่มีใครให้กัด เหงาซะมัด ไม่รู้เป็นไง
แล้วพวกเธอล่ะ เป็นเหมือนกันมั้ย
วันไหนๆ ก็อยากเจอ

รักเธอนะ...อยากให้รู้ว่ารักมาก
แต่ว่าคำพูดจาจากปาก
ไม่อาจบอกว่ามากแค่ไหน
มองที่แววตา หวังว่าคงเข้าใจ
กับความรู้สึกที่มากมาย
ที่อยากมอบไว้ให้เพื่อนเกลอ

วันนี้วันเกิดใครเอ่ย
ใช่แน่เลยชัวร์ป้าบวันนี้
ไม่เลยไม่ขาดพอดีพอดี
สรุปว่าวันนี้มีคนชราเพิ่ม 1 คน

แม้ไม่ได้เจอกันทุกวัน
แม้ไม่ได้เห็นหน้ากันทุกคืน
แต่มิตรภาพที่หยิบยื่น
คือความพอดีของความผูกพัน
กับวันเวลาที่ผ่านมา
ช่วยทำให้เรารู้ซึ้งว่า "เพื่อน" มีค่าแค่ไหน
แม้วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป
แต่ความรู้สึกดี-ดีในใจ จะคงอยู่ตลอดไป ไม่มีลืม

ไปไหนมาสาวหน้าเป็ด
หัวเป็นเห็ด ตัวเป็นหนอน
ถึงจะเบอะอย่างไร เราก็ยอม
เพราะเราพร้อมเป็นเพื่อนกับเธอไง

กริ้งกร้างถึงกันหน่อย
อย่าปล่อยให้เพื่อนคนนี้ต้องเหงา
เงินที่จ่ายไปจะไม่สูญเสียไปเปล่าๆ
เพราะความเป็นเพื่อนของเรา จะยิ่งยืนยาวตลอดไป
หรือถ้ายังไม่รวย
ก็อาศัยลายมือสวยๆ ส่งแทนก็ได้
แต่อย่าลืมนะ! ต้องติดแสตมป์ลงไป
เดี๋ยวไปรษณีย์จะหมันไส้.....เก็บเงินปลายทาง

เพื่อนคนนี้งอนแล้วนะ
ก็เธอน่ะทำตัวห่างเหิน
ดูเหมือนจะแยกทางเดิน
เพราะมัวเพลินกับคนที่รู้ใจ...
ไม่ใช่ว่าอิจฉา
แต่อย่าให้ความเป็นเพื่อนลบเลือนได้ไหม
เพราะระหว่างเรามีแต่ความจริงใจ
เพื่อนยังสำคัญอยู่ใช่ไหม.....คนดี

Cin Jia U E, Cin Nee Huad Chai
คิดเงินให้ได้เงิน คิดทองให้ได้ทอง
เงินไหลมากอง ทองไหลมาทับ
ถ้าเรียนนั่งหลับ ขอให้อาภัพเกรด A

เห็นเพื่อนซี้อกหัก...
เพราะคนรักควงแฟนใหม่
เราทำได้แค่ให้กำลังใจ
ช่วยอะไรไม่ได้หรอกเพื่อนเอย
"ตัดใจจากเค้าซะ"
บอกได้เท่านี้ละเกลอเอ๋ย
 X เรื่องอย่างนี้เราก็เคย
ยังเอาตัวไม่รอดเลย
..จะช่วยเพื่อนได้ยังไง..

อยากจะเป็นอะไร
ขอให้ได้เป็นอย่างนั้น
อะไรที่เธอใฝ่ฝัน
ขอให้สิ่งนั้นเป็นจริง
ฉันเชื่อว่าเธอทำได้
ฝันอะไรไว้มากมายหลายสิ่ง
ฉันเชื่อมั่นในตัวเธอจริง ๆ
มั่นใจในทุกสิ่งที่เป็นเธอ

ถ้าโลกนี้เป็นสีชมพู
ลองคิดดูว่าจะน่าอยู่สักแค่ไหน
แต่ช่างเถอะไม่ว่าโลกนี้สีอะไร
ขอแค่มีเพื่อนอยู่ใกล้ๆก็เพียงพอ...

เธอถามฉัน
ถึงของขวัญที่ปรารถนา
จะบอกได้อย่างไรว่า
ของขวัญที่มีค่า
คือ..อยากมีเธอยืนอยู่ข้างหน้าตรงนี้ไง

ดีใจได้พบเพื่อน แม้ลางเลือนเรื่องครั้งก่อน
ความรักความอาทร ยังแน่นอนและแน่ใจ
ห่างหายกันหลายปี เจอกันทีก็ดีใจ
เจอแล้วก็จากไป แต่อย่างไร..เราเพื่อนกัน
พบเจอทางที่ค้น แต่ละคนแต่ละฝัน
หลายทางหนึ่งสัมพันธ์ คือนิรันดร์..คือย้ำเตือน
เคยเล่นเคยหยอกล้อ เคยงอนง้อ..เคยเป็นเพื่อน
กี่วันกี่ปีเดือน ยังคงเหมือนเคยอยู่ดี
อยากพบอยากทายทัก อยากหยุดพัก ณ ยามนี้
กาลหมุนทุกนาที ทางที่มี..เริ่มห่างกัน
นานแล้วกว่าได้พบ ไม่อยากจบ..ด้วยหมางเมิน
รู้ไหมนานเหลือเกิน กว่าทางเดินเชื่อมถึงกัน
ขอคุยขออีกนิด เพื่อนสนิท..อย่าลืมฉัน
สัญญา..ขอยืนยัน จะคงมั่น..ฉันเพื่อนเธอ

ขอพรจากดวงดาว
หยิบเมฆขาวมาห่มให้
ฟ้ากว้าง ต่างดวงใจ
โอบเธอไว้ทุกนาที
ขอแสงทองเมื่อรุ่งสาง
ส่องทางให้เธอทุกที่
ทุกปรารถนาที่ฉันมี
เพื่อนคนดี เพื่อเธอ

วันเวลาแห่งความสุข
มักจะสั้นแต่มันก็มีคุณค่าในตัวเองเสมอ
ความทรงจำดี ๆ มากมายที่ได้เจอ
อย่างน้อยก็ทำให้ได้เจอเพื่อนดี ๆ อย่างเธอเพิ่มอีกคน

ในนิยามของคำว่าเพื่อน
เธอทำให้รู้สึกเหมือนเธอเป็นได้มากกว่า
อบอุ่นจริงใจและห่วงใยเสมอมา
อยู่ตรงไหนก็รู้ว่ายังผูกพัน
และเป็นความผูกพันที่เหนียวแน่น
เพื่อนอื่นหมื่นแสนแทนพวกเธอไม่ได้ทั้งนั้น
ขอบคุณมากนะกับใจจริงที่ให้กัน
และจะเป็นเพื่อนที่แสนดีตลอดไปเช่นกันให้...สัญญา...

ตอนแรกว่าจะคว้าดาวมาให้
แต่มันอยู่สูงเกินไปเอื้อมไม่ถึง
เลยมีแต่การ์ดแทนใจใบนึง
กับข้อความซึ้งๆ
ที่ฉันเขียนจาก ก้นบึง ของหัวใจ

ฉันผูกใจไว้กับการมีเพื่อน
ฉันผูกเงื่อนงามเปี่ยมด้วยความหมาย
ฉันผูกความเป็นเพื่อนด้วยเงื่อนตาย
ฉันผูกสายใยรักกับเพื่อนนับเดือนปี
ต่างสายเลือดกลับผูกได้เป็นสายร่วม
เรียงร้อยรวมทุกใจไปทุกที่
คือเงื่อนรักที่ผูกไว้จากไมตรี
โดยไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย

เพียงแค่ขอให้ใจเราคิด
เพียงแค่ขอให้ใจเราฝัน
เพียงแค่ขอให้ใจเราผูกพันธ์
เพียงแค่ขอเป็นเพื่อนกันตลอดไป
(คนผิวดำ 18/05/2006)

ตอนแรกว่าจะคว้าดาวมาให้
แต่มันอยู่สูงเกินไปเอื้อมไม่ถึง
เลยมีแต่การ์ดแทนใจใบนึง
กับข้อความซึ้งๆ
ที่เขียนจาก ก้นบึง ของหัวใจ
ก็เลยไม่มีสิ่งใดจะมอบให้
นอกจาก....ความจริงใจที่เต็มปรี่
เริ่มต้นผูกพันกันวันนี้
เพื่อมิตรไมตรีที่ดี..ตลอดไป

ฉันอาจไม่มีเวลาให้
เธออาจยุ่งเกินไป เลยไม่มาหาฉัน
เราอาจไม่ได้พบเจอ กันและกัน
ต่างคนก็ต่างมีธุระสำคัญ ของตน
ระยะทาง ไม่ว่าจะห่างกันแค่ไหน
เวลา ที่นานเท่าไหร่ ฉันไม่สน
อยากให้เธอรู้ไว้เท่านั้น ยังมีฉันอีกหนึ่งคน
ที่เมื่อเธอสับสน ฉันจะเป็นคน ข้างๆ กาย
เพราะความที่เรา "เป็นเพื่อน"
ความรักเราจึงไม่เคยบิดเบือน เลือนหาย
ที่ห่างกันจริงๆ เพียงกาย
แต่ที่อยู่ใกล้ๆ คือหัวใจ ที่ให้กัน

ที่เราเอาบทนิยามเรื่องนี้มาให้คุณๆได้อ่าน ไม่ใช้ว่าทำไปเล่นๆ เมื่อไม่มีอะไรทำ เเต่เราทำไปเพื่ออยากให้เพื่อนที่เเสนดีของเราได้มาอ่านมัน เพื่อนที่เราจะได้กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=808036

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

รู้หรือเปล่าในวันที่เราท้อแท้


ข้อความให้กำลังใจ ดีดี โดนโดน

รู้หรือเปล่าในวันที่เราท้อแท้  เราต้องการกำลังใจเพื่อที่จะลุกสู้ต่อไปมากแค่ไหน  แต่บางครั้งดูเหมือนว่าเรานั้นอยู่บนโลกนี้คนเดียว  ตัวคนเดียว  ไม่มีใครเข้าใจ  ไม่มีใครมาปลอบ  ไม่มีใครมาคอยดูแล  ไม่มีใครมาคอยให้กำลังใจเรา  ชีวิตนี้เหมือนหมดสิ้นทุกอย่าง  แต่ถ้าเราคิดให้ดีและมองให้ลึกลงไปกว่านี้  จะมีกำลังใจเล็กๆ  ที่เราเคยมองข้ามอยู่เสมอ  คอยให้กำลังใจเราอยู่ห่างๆ  คุณรู้ไหมว่ากำลังใจเล็กๆนั้นมาจากไหน  ก็มาจากคุณพ่อและคุณแม่ของคุณไง  ท่านคอยมองเราทุกฝีก้าว  คอยมองเราอย่างห่างๆ  แต่เรากลับมองข้ามไป  เห็นไหมค่ะว่าคุณพ่อและคุณแม่ของเรานั้นดีกับเราแค่ไหน  ในยามที่ท่านท้อ  เราก็อย่าลืมให้กำลังใจท่านด้วยนะค่ะ  อาจจะไม่ต้องใช้อะไรมากมาย  ใช้แค่คำพูดสั้นๆได้ใจความ  บอกกับท่านในยามที่ท่านรู้สึกท้อใจ  เสียใจ  ยกตัวอย่างการให้กำลังใจคนใกล้ชิด  ”ตัวคุณพ่อและคุณแม่จะหนัก  จนหาใครในโลกแข็งแรงพอจะฉุดให้ลุกขึ้นมาไม่ได้  ทางเดียวคือคุณพ่อและคุณแม่ต้องออกแรงลุกขึ้นมาเอง”  ถ้าเราคิดที่จะปลอยวาง  เราก็จะมีความสุข  ถ้าเราไม่คิดที่จะยึดติด  จิตใจเราก็มีความสุข  เห็นไหมค่ะว่าการให้กำลังใจไม่ได้ยากเลย  สำหรับที่นี่  ข้อความโดนๆ  ได้นำเอาข้อความให่้กำลังใจดีๆโดนๆ  มากมายมาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน  ทั้ง  ข้อความ sms   ที่เราสามารถนำข้อความนี้ส่งผ่านมือถือให้กับคนรู้ใจ  ข้อความภาพ มีทั้งเนื้อหาและภาพ  ทีี่่สวย  น่ารัก  สดใส  มาอัพเดจให้เพื่อนๆได้อ่านกัน  ข้อความกวนๆ ที่จะกวนจนคุณมาจะต่อยเลยทีเดียว  ภาพข้อความโดนๆ ข้อความซึ้งๆ รูปภาพข้อความ ข้อความโดนใจ ข้อความคิดถึง ข้อความรัก ข้อความโดนๆ ข้อความฝันดี ข้อความเพื่อน ข้อความบอกรัก  เห็นไหมค่ะว่าเรามีข้อความหลากหลายให้คุณได้อ่านกัน
  •  การเรียนแม้เหนื่อยยาก ย่อมลำบากอย่าท้อแท้ สุดท้ายที่รอคอยคืออนาคตอันงดงาม
  •  ใฝ่เรียน ใฝ่รู้ ใฝ่กตัญญู ใฝ่ความดี
  •  ความจริงจังตั้งใจคือกุญแจไขสู่ความสำเร็จ
  •  นับถือตัวเอง นับถือผู้อื่น และรับผิดชอบในสิ่งที่ตนทำ
  •  ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตคือ ตัวเราเอง
  •  ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตคือการยอมแพ้ตัวเอง
  •  การล้มละลายในชีวิตเราคือความสิ้นหวัง
  •  คนดีไม่เบ่ง คนเก่งไม่โม้ คนใหญ่โตไม่อวด
  •  ไม่มีอะไรทีเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่จะเป็นไปได้ยากหรือง่ายเท่านั้นเอง
  •  เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว เดินหมากรุกยังต้องคิด เดินหมากชีวิตไม่คิดได้อย่างไร
  •  อย่าไล่สุนัขให้จนตรอก อย่าต้อนคนให้จนมุม
  •  เพราะแสวงหาไม่ใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญไม่ใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถมิใช่เพราะโชคช่วย
  •  ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน
  •  อำนาจที่ปราศจากเหตุผลคือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย
  •  นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกนายให้ดูน้ำใจ
  •  ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติคือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น
  •  ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่เกิด
  •  คนมองไม่เห็นการณ์ไกล ภัยก็จะมาถึงตัว คนไม่รู้จักตัดไฟ ภัยก็จะน่ากลัว
  •  ไม้คดใช้ทำขอ เหล็กงอใช้ทำเคียว แต่คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย
  •  เมื่อเสียหลีกก็ต้องหลบอย่างฉลาด เมื่อพลั้งพลาดต้องรู้หลีกใส่ปีกหาง ค่อยๆคิดค่อยๆทำค่อยคลำทาง จึงจะย่างสู่จุดหมายเมื่อปลายทาง
  •  ปลาใหญ่มักตายน้ำตื้น
  •  เมื่อใครสักตนหนึ่งทำผิด อย่าพึ่งตำหนิหรือต่อว่าเขา เพราะถ้าเราเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับเขา เราอาจตัดสินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้
  •  อย่าเชื่อจนกว่าจะได้พิสูจน์ว่าสิ่งนั้นเป็นจริง
  •  การบริหารคือ การทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น
  •  อ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น
  •  ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี
  •  คนฉลาดปราศเปรื่องยอมนั่งนิ่งสงวนคำ
  •  คิดทำการใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย
  •  ไม่มีใครเลี้ยงอาหารใครเปล่าๆ โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน
  •  ศัตรูที่ว่าร้ายเหลือ ก็ร้ายไม่เท่าเกลือเป็นหนอน
  •  เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน ดังนั้นจงอย่าประมาท
  •  ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถมองเห็นคิ้วของตน
  •  คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น แต่คนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต
  •  ดวงอาทิตย์ทำให้ทุกสิ่งกระจ่างชัด แต่เรายังต้องทำความเข้าใจในส่วนที่มืด ซึ่งยังคงดำรงอยู่
  •  ผู้นำที่ฉลาดไม่แสวงหาทรัพย์สินหรือคำสรรเสริญเยินยอมากนัก แต่ถึงไม่แสวงหาผู้นำที่ฉลาดก็ย่อมจะมีทั้งทรัพย์สินและคำสรรเสริญเยินยอ
  •  ความเงียบหรือการไม่พูดเป็นขุมพลังอันยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง
  •  ความหลงตัวและความเห็นแก่ตัว ไม่ว่าในรูปแบบใดย่อมทำให้อัตตาที่อยู่ในส่วนลึกของเราหม่นหมองและทำให้เรา มองไม่เห็นว่าสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร
  •  มีความพยายามอยู่ที่ไหน มีความสำเร็จอยู่ที่นั่น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หรือ หว่านพืชเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้น
  •  อย่ามี ศีรษะไว้ให้แค่ผมขึ้น แต่ต้องใช้สมองไตร่ตรองด้วย
  •  พอใจเท่าที่มี ยินดีเท่าที่ได้
  •  สิ่งที่สอนคนเราไม่ได้ก็คือ “สามัญสำนึก”
  •  ไปให้สุดแล้วหยุดที่คำว่าพอ
  •  หากเดินตามรอยเท้าคนอื่น ก็ไม่มีวันมีรอยเท้าเป็นของตัวเอง
  •  ความพยายามครั้งที่ 100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  •  การศึกษาคือความรู้ที่ได้มาไม่ใช่สถาบัน
  •  อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด อย่ายึดติดถือติด
  •  อ่อนโยน แต่อย่าอ่อนแอ
  •  ถ้าคนเราไม่ปล่อยวางอดีต ก็จะไม่รู้จักอนาคต
  • มนุษย์แท้จริงแล้วไม่ได้โตด้วยอาหาร แต่โตได้ด้วยความลำบาก
  •  ตัดกระดาษต้องใช้กรรไกร แต่ตัดใจต้องใช้เวลา
  •  ทำแล้วเสียใจ ยังดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
  •  จะสูงจะต่ำอยู่ที่เราทำตัว จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ
  •  ความจริงของคนๆหนึ่ง ไม่ใช่ความจริงของคนทั้งหมด
  •  ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
  •  เวลาแห่งความสุขผ่านไปไว แต่เวลาแห่งความทุกข์กว่าจะผ่านไปนานแสนนาน
  •  พรสวรรค์หรือจะสำคัญเท่าพรแสวง
  •  ผิดพลาดไม่ได้แปลว่าล้มเหลว แต่เป็นหนทางที่ทำให้เราเจอสิ่งที่ถูกต้อง
  •  เมื่อมีเรื่องจงหมั่นปรึกษาผู้อื่น และจงเป็นที่ปรึกษาให้ผู้อื่นด้วย
  •  อย่าโกหกกับเรื่องที่คุณคิดว่าผิด
  •  ไว้ใจบุคคลที่สมควรไว้ใจ
  •   เปิดใจให้กว้าง มองการณ์ไกล วางแผนอนาคต มีความรับผิดชอบ
  •   ให้ในสิ่งที่ผู้อื่นอยากได้และไม่มี
  •   อย่าใช้อารมณ์ แต่จงใช้ความคิดและเหตุผล
  •  คิดถึงส่วนรวมให้มาก คิดถึงตังเองให้น้อย
  •  อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า
  •  อย่ารู้ค่าสิ่งที่อยู่กับเราต่อเมื่อเราสูญเสียไปแล้ว
  •  จงรู้ตัวอยู่เสมอว่าตอนนี้กำลังทำอะไร
  •  อย่าเก็บอดีตมาทำร้ายตนเอง แต่จงหัดที่จะเรียนรู้จากมัน
  •   คนที่ไม่ผิดคือคนที่ไม่เคยทำอะไร
  •   ทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมบ้าง อย่าเห็นแก่ตัว
  •  อย่ารอคอยในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงอย่ากลัวในสิ่งที่ตนสามารถสู้หรือเปลี่ยนแปลงมันได้
  •   กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ หัดเติมให้คนอื่น แล้วเขาจะกลับมาเติมให้คุณเอง
  •  จงเป็นฝ่ายให้มากกว่าเป็นฝ่ายรับ
  •  คำพูดเมื่อพูดไปแล้วสามารถเรียกกลับมาได้ คิดก่อนพูด
  •   ชีวิตไม่ใช่เกม พลาดแล้วไม่สามารถเริ่มใหม่หรือกดโหลดได้
  •  เราซื้อนาฬิกาได้ แต่เราไม่สามารถซื้อเวลาได้
  •  ตอนคุณลำบากคุณคิดถึงใคร คุณอยากให้ใครช่วยเหลือ ตอนนี้คุณกำลังสบายอยู่แล้วคนที่คุณคอยขอความช่วยเหลือล่ะ หมดประโยชน์แล้วหรือ
  •   ทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองมีความสุข แต่อย่าทำบนความทุกข์ของคนอื่น
  •   อย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโชคร้ายที่สุด และอย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโชคดีที่สุด
  •   มีเรื่องราวอีกมากมายที่ไม่ได้เขียนอยู่ในหนังสือ ลองค้นคว้าดูจะรู้
  • ไม่ขอนั่น ไม่ขอนี่ เหมือนปีเก่า
    ขอแบบนั้น ชีวิตเรา ไม่ไปไหน
    ขอให้เปลี่ยน วิธีคิด จากนี้ไป
    เปลี่ยนนิสัย ชีวิตใหม่ จะดีเอง
    ทั้งชีวิตคุณ
    โอกาสรวยล้นฟ้า อาจผ่านมาครั้งเดียว
    โอกาสพบรักแท้ อาจผ่านมาสองครั้ง
    แต่โอกาสพัฒนาตัวเอง ผ่านมาทุกวัน
    ในช่วงเวลาท้อแท้
    ตัวคุณจะหนัก
    จนหาใครในโลกแข็งแรงพอจะฉุดให้ลุกขึ้นมาไม่ได้
    ทางเดียวคือคุณต้องออกแรงลุกขึ้นมาเอง
    ” จงอย่าสูญเสียความเชื่อ ”
    • สิ่งเดียวที่ทำให้ผมลุกขึ้นเดินต่อไปได้
    ก็คือผมรักในสิ่งที่ผมทำ
    ดังนั้น
    คุณจะต้องหา
    ในสิ่งที่คุณรักให้เจอ
    สิ่งนี้เป็นเรื่องจริง
    ทั้งเรื่องงานและความรัก
    : เพราะคุณจะต้องใช้เวลา
    ส่วนใหญ่ในชีวิตไปกับการทำงาน
    และวิธีเดียว
    ที่จะทำให้คุณพอใจกับชีวิตได้อย่างแท้จริง
    ก็คือการทำในสิ่งที่
    ตัวคุณเองเชื่อว่า “มันยอดเยี่ยม”
    และวิธีเดียวที่คุณ
    จะทำในสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้
    ก็คือ
    คุณจะต้องรักในสิ่งที่คุณทำ
    .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
    • ถ้าหากคุณยังหามันไม่พบ
    อย่าหยุดหาจนกว่าจะพบ
    และอย่าพึ่งยอมหยุดอยู่กับที่
    หัวใจของคุณจะบอกคุณเอง “เมื่อคุณพบมันแล้ว”
    : มันก็เหมือนกับมิตรภาพ
    หรือความสัมพันธ์ที่ดีๆ
    ก็คือยิ่งนานวันเข้า
    …เราจะรู้สึกว่า “มันยิ่งใช่”
    ดังนั้น
    จงค้นหาต่อไป
    อย่าหยุด…จนกว่าจะเจอ
    .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
    ” เวลาของคุณมีจำกัด ”
    ดังนั้น
    อย่าเสียเวลาใช้ชีวิตใต้ร่มเงาของคนอื่น
    อย่าถูกตีกรอบด้วยกฏเกณฑ์
    ซึ่งก็คือผลของการใช้ชีวิต
    ตามความคิดของคนอื่นนั่นเอง
    • อย่าให้เสียงความคิดเห็นของคนอื่น
    กลบเสียงที่อยู่ภายในใจของคุณจนหมดสิ้น
    : และที่สำคัญที่สุด
    จงกล้าหาญอยู่เสมอ
    ที่จะทำตามหัวใจ
    และสัญชาตญาณของตัวเอง
    เพราะบางที 2 สิ่งนี้
    อาจทำให้คุณรู้อยู่แล้วว่า
    ที่จริงแล้ว
    คุณต้องการจะเป็นอะไร
    นอกจากนี้แล้ว
    ทุกอย่างเป็นเรื่องสำคัญรองลงไปหมด
    ความโศรกเศร้า…
    สามารถเยียวยาตัวเองได้โดยลำพัง
    แต่การจะได้รับความเบิกบานอย่างเต็มเปี่ยม จำเป็นต้องมีใครสักคนมาแบ่งปัน…

    ความห่างไกล สอนให้ ใจคิดถึง
    ความรำพึง จะสอน ตอนห่วงหา
    ความเชื่อใจ จะสอน ตอนนินทา
    แต่ความกล้า จะสอน ตอนเรากลัว

    ผู้มีปัญญา สามารถนำคำติ
    มาแก้ไขพัฒนาตนเองได้

    การทำบุญไม่ต้องรอตอนแก่
    เพราะไม่แน่ว่าจะได้อยู่จนแก่หรือไม่
    เพราะบางคนแก่แล้ว ยังไม่ได้ทำบุญก็มี…

    ผู้ใดมีจิตฟุ้งซ่าน มีความดำริไม่มั่นคง เช่นกับมฤคยินดีในธรรมของอสัตบุรุษ ย่อมกล่าวคำเพ้อเจ้อเป็นอันมาก ผู้นั้นมีความเห็นลามก ปราศจากความเอื้อเฟื้อ ตั้งอยู่ไกลจากความเป็นผู้มั่นคง

    A wonderful new life is here
    Congratulations!
    ชีวิตใหม่ที่แสนมหัศจรรย์ อยู่ที่นี่แล้ว
    ขอแสดงความยินดีด้วยนะ
    “มีพบก็ต้องมีจาก มีได้ก็ต้องมีเสีย และมีสุขก็ต้องมีทุกข์เป็นสัจธรรม”
    มีคนเคยบอกเอาไว้ว่า…
    • การตั้งความหวัง คือการเสี่ยงกับความเจ็บปวด
    • การพยายาม คือการเสี่ยงกับความล้มเหลว
    • แต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง เพราะในสิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตก็คือ
    • การไม่เสี่ยงอะไรเลย

    หนึ่งสมอง สองมือ ต้องไขว่คว้า เมื่อมีปัญหา ขึ้นมา ต้องแก้ไข
    หนึ่งสมอง สองมือ ต้องไขว่คว้า
    เมื่อมีปัญหา ขึ้นมา ต้องแก้ไข
    เหนื่อยและท้อ ขอพักหน่อย ไม่เป็นไร
    ให้มีแรง ลุกขึ้นใหม่ ได้อีกครา

    - – - – -

    คนเราก็เป็น แบบนี้ กันทั้งนั้น
    มีสุขสันต์ โศกเศร้า เท่ากันแหละหนา
    ความสำเร็จ แต่ละครั้ง กว่าจะได้มา
    ต้องแลกด้วย เหงื่อและน้ำตา แทบทุกคน

    - – - – -

    ขอเป็นอีก หนึ่งแรงใจ ให้คนสู้
    ให้เธอรู้ ว่าเธอ ยังมีหวัง
    ขอส่งแรงใจ ให้เธอ มีแรงพลัง
    ไปยังฝั่งฝัน ที่เธอวาดหวัง และตั้งใจ

    รอยเท้าที่ยาวไกล เมื่อมองกลับไป บ่งบอกได้ในผลงาน
    รอยเท้าที่ยาวไกล
    เมื่อมองกลับไป
    บ่งบอกได้ในผลงาน
    บางรอยอาจมีชำรุด
    เพราะสะดุด จุดขวากหนาม
    ฟันฝ่าจนรอยงาม
    เก็บเป็นนิยามของความภูมิใจ

    มีเม็ดทรายนับไม่ถ้วนจำนวนทราย คนทั้งหลายนับไม่ถ้วนในคุณค่า
    มีเม็ดทรายนับไม่ถ้วนจำนวนทราย
    คนทั้งหลายนับไม่ถ้วนในคุณค่า
    ทรายจะแกร่งก็เพราะผ่านกาลเวลา
    คนจะกล้าก็เพราะผ่านความอดทน

    ไม่เคยที่จะละเลยความห่วงใย
    ดวงตะวันจะลับฟ้า
    ดวงดาราจะลับเลย
    แต่ใจก็ไม่เคย
    ที่จะละเลยความห่วงใย

    อย่างน้อยเธอยังมีฉัน… ที่รอคอยวันให้เธอกลับมา
    ฉันจะเก็บดาวเอาไว้ให้
    ในวันที่เธออยู่ไกลแสนไกลอีกขอบฟ้า
    จะเก็บความสุข จากทุก-ทุกช่วงเวลา
    เก็บไว้รอให้เธอกลับมา และรับมัน
    ฉันจะส่งความห่วงใยไปหา
    ในค่ำคืนที่เธอเหว่ว้ากับความฝัน
    อย่าร้องไห้และท้อใจเมื่อไกลกัน
    อย่างน้อยเธอยังมีฉัน…
    ที่รอคอยวันให้เธอกลับมา

    ดีใจที่เป็นคนหนึ่ง ที่เธอนึกถึงในวันอ่อนล้า
    ดีใจที่เป็นคนหนึ่ง
    ที่เธอนึกถึงในวันอ่อนล้า
    มีสองมือคอยเช็ดน้ำตา
    อยากให้เธอรู้ว่า ฉันพร้อมจะเข้าใจ
    วันใดเธอยังสุขสันต์
    ไม่จำเป็นต้องนึกถึงฉันก็ได้
    แต่หากเมื่อครั้งที่เธอเศร้าใจ
    มาร้องไห้ใกล้ๆฉันก็พอ


    เหมือนมีดาวล้านดวงคอยห่วงใย เหมือนมีใครคนหนึ่งคอยปลอบโยน

    ค่ำคืนนี้ดาวพราวนภากว้าง
    เธออยู่กลางดวงตาที่สุกใส
    เหมือนมีดาวล้านดวงคอยห่วงใย
    เหมือนมีใครคนหนึ่งคอยปลอบโยน


    ………..อย่าเพียรสร้างความหวัง แต่ให้เชื่อมั่นใความหวัง…………
    เพราะความเชื่อมั่นจะนำพาเราไปพบกับ “หนทางสู่ความสำเร็จ”




    • แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันอะไรอีกมากมายกว่าจะถึงวันนั้น
    • แม้ว่าจะต้องล้มลงอีกสักกี่ครั้ง
    • แม้ว่าจะต้องผิดหวังอย่างแรงอีกสักกี่หนก็ตาม

วิธีที่จะปลุกปลอบใจให้เบิกบานขึ้นได้ ก็คือการปลุกปลอบให้กำลังใจคนอื่นๆ


วิธีที่จะปลุกปลอบใจให้เบิกบานขึ้นได้
ก็คือการปลุกปลอบให้กำลังใจคนอื่นๆ

ใน  1 ปีมีฤดูที่แตกต่าง   บางฤดูฝนพรำจนหัวใจเปียกปอน
บางฤดูลมหนาวบาดใจจนเจ็บร้าว  แต่ในที่สุดก็มีฤดูที่ฟ้าใส
ทะเลสวย  มี ฤดูที่ดอกไม้บานสะพรั่ง  มีฤดูที่แสงแดดอบอุ่น
และว่าวลอยเต็มฟ้า  ชีวิตคนเราก็มีฤดูกาลที่แตกต่าง
เรา     จะผ่านพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายได้ไม่ยาก   หากเรามี
ความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม  เรามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน  รู้ดีว่าเรา
จะก้าวไปทางใด   รู้ความต้องการของเราเอง  รู้ว่ากำลัง
จะทำอะไร  และเรามีพลังใจอย่างเต็มเปี่ยมเพียงใด

อย่า เป็นกังวลอะไรนักกับภาพลักษณ์  หรือสิ่งที่คนอื่นจะ
มองเราว่าเป็นอย่างไร   จงทำในสิ่งที่เป็นตัวเราเองจริงๆ
แล้วพอใจกับมัน  มากกว่าที่จะคิดทำอะไร  เพียงเพื่อคาดหวัง
                       ให้คนอื่นมองเราในแง่ดี

หนทางที่ดีที่สุดที่จะแก้ไขความทุกข์ในใจ  คือ
พยายามหาอะไรทำให้ชีวิตยุ่งเหยิงเข้าไว้

ตื่น นอนตอนเช้าพร้อมกับแผนการดีๆ  ในวันนั้นแล้วทำ
ทุกอย่างอย่างใส่ใจ   อย่างมีสมาธิ  และมีความพึงพอใจตลอดวัน
แล้วก็หลับตานอนพร้อมกับความสุขใจ  ที่ได้ทำทุกอย่างอย่างดี
ที่สุดแล้ว  เพียงแค่นี้คุณก็ไม่มีเวลาจะไปนั่งอมทุกข์แล้วล่ะ

ใน เมื่อสิ่งที่คาดหวังยังไม่เป็นไปตามที่มุ่งมาดปรารถนา
เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้กับสิ่งเดิมๆ  แล้วลองเริ่มต้น
กับสิ่งใหม่   ที่จะเป็นไปได้ง่ายกว่า  และใกล้มือกว่าที่เคยหวัง

ความ หวาดกลัวก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง  ที่ทำให้เราจมอยู่กับความรู้สึก
ทุกข์เศร้า    จนไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร  และไม่กล้าเริ่มต้นใหม่
ซึ่งภาวะเช่นนี้  เป็นเรื่องเจ็บปวดมากยิ่งกว่าสภาวะที่เป็นอยู่เสียอีก

การที่คนอื่นๆ  มีความสุขกว่าเรานั้น   มิใช่เพราะเขาหัวเราะ
เสียงดังกว่าเรา  แต่เป็นเพราะเรามัวแต่อยากร้องไห้  และ
ไม่ยอมเปล่งเสียงหัวเราะอย่างเขาเท่านั้น

หน้า ที่การงานจะไม่ใช้เรื่องที่ทำให้เราเหนื่อยและท้อเลยถ้าเรา
เติมความรักและความรู้สึกสนุก   ใส่ลงไปในขณะปฏิบัติงานด้วย
บางเวลาแม้มันจะหนักหนาจนเครียดบ้าง   แต่ถ้าเรามีจุดหมายที่
ชัดเจน  มีการวางแผนที่ดีและมีความรับผิดชอบที่เต็มที่  ปัญหา
ที่รบกวนจิตใจก็จะมีน้อยลง  เพราะเราจะสามารถจัดการทุกอย่างได้
โดยไม่เห็นว่ามันเป็นภาระอันหนักหน่วงเลยแม้แต่น้อย

ชีวิต คนควรมีช่วงที่หยุดพักบ้าง   ถ้ารู้สึกเหนื่อย ท้อหรือมีทุกข์
ที่ใจ  การหยุดพักสักครู่ไม่ทำให้ชีวิตถอยหลัง  แต่การดันทุรังสู้
ไปในขณะที่ไร้เรี่ยวแรงนั้น   จะทำให้ย่ำแย่ยิ่งกว่า

เมื่อไปทางเดิมไม่ได้   ก็ให้เปลี่ยนเส้นทางใหม่   อย่าอ้างว่า
ชีวิตของคุณไม่มีทางเลือก  เพราะความจริงแล้ว  ชีวิตมีทางเลือก
ให้คุณเสมอ เพียงแต่ว่าคุณไม่กล้าพอที่จะเลือกทางอื่นๆเท่านั้นเอง

ถ้ามีโอกาสที่จะบอกใครสักคนว่าเรารักเขา  ก็จงบอกเถิด
ถ้ามีโอกาสแสดงความรักความห่วงใยให้ใคร  ก็อย่าละเลย
โอกาสนั้น  การจะถูกรักตอบหรือไม่  ไม่ใช้เรื่องสำคัญ
ความรักเป็นความงดงาม  ที่เราไม่จำเป็นต้องอับอายหรือกลัว
เสียศักดิ์ศรีแต่อย่างใด

ตัดสินใจให้ดีก่อนที่จะทำในเรื่องสำคัญ   ซึ่งมีผลเกี่ยวพัน
ทางกฎหมาย   เช่น  การช่วยเหลือใครโดยการค้ำประกัน   การ
ให้ยืมเงินเป็นจำนวนมาก  หรือการร่วมเข้าหุ้นกับใคร  แม้จะ
เป็นคนกันเอง  แต่ควรพิจารณาให้รอบคอบ   วันหนึ่งหากเกิด
ปัญหาแล้วมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล   ชีวิตจะยุ่งเหยิงและเป็นทุกข์
มากกว่าเวลาที่ยอมปฏิเสธเพื่อนไป

ไม่  ต้องใส่ใจคำวิพากษ์วิจารณ์ของใครๆ  เราต้องรู้จักวางเฉย
แม้จะรู้สึกโกรธหรือเสียใจ   แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะวิ่งไป
ตอบโต้คำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหลายทั้งปวงได้   ควรให้เวลาเป็น
เครื่องพิสูจน์การกระทำที่ดีและสม่ำเสมอ  ย่อมจะแสดงตัวออกมา
ได้ชัดเจนกว่าคำวิจารณ์ใดๆ   ในวันหนึ่งอย่างแน่นอน

คำพูดที่อ่อนโยน  ความคิดที่งดงาม  สามารถชุบชูใจให้ผู้อื่น
รื่นรมย์ได้   และยังช่วยสมานใจเราเองให้คลายจากความปวดร้าวทั้งปวง
บาง   วันอาจมืดมนราวกับมีเมฆฝนครึ้มท้องฟ้า  อยู่ในชีวิตของคุณ
เต็มไปหมด  แต่เราสามารถทำให้มันสดใสและสว่างขึ้นมาได้มิต้อง
ไปแสวงหาดวงตะวันที่ไหน    จิตใจของคุณนั้นแหละคือดวงตะวัน
แค่ทำให้มันสดใสขึ้นมาให้ได้เท่านั้น
เขียน   ถ้อยคำอบอุ่นแสดงความคิดถึง  หรือความยินดีในวาระ
โอกาสใดก็ได้ส่งให้เพื่อนเก่า   คนรู้จักคุ้นเคยกันหรือแม้แต่ญาติ
ผู้ใหญ่  ส่งความรู้สึกดีๆ  ผ่านถ้อยคำถึงผู้อื่นแล้วจิตใจของคุณ
จะสบายขึ้นเอง
อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง  แบ่งปันหัวใจไปห่วงใยอาทรคน
อื่นๆดูบ้าง  คนรอบข้างของคุณคงมีสักคนที่เขากำลัง
ทุกข์ร้อนหรือเศร้าโศก   อาทรเขา   ปลอบโยนเขา  แม้จะ
ช่วยเหลืออะไรไม่ได้มาก  ขอเพียงแค่แสดงความเป็น
ห่วงเขาอย่างจริงใจก็เพียงพอแล้ว
ลองไปตามสถาบันคนตาบอด   แล้วอาสาเป็นผู้อ่านหนังสือ
ใส่เทปไว้ให้คนตาบอดฟัง  ทำอะไรที่ดีและมีประโยชน์ต่อผู้อื่น
บ้าง  แล้วความรู้สึกไม่ดีในใจจะเลือนจางโดยไม่ต้องนั่งกังวลว่า
จะจัดการกับความทุกข์ของตนอย่างไร


ขอบคุณเครดิต///www.umarin.com